วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

คำถามท้ายบทที่  1

1.ให้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ทางธุรกิจที่ต้องแปรสภาพข้อมูลให้กลายเป็นสารสนเทศที่มีประโยชน์
          ตอบ   ยกตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ เมื่อกล่าวถึงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Nokia รุ่น 3032 มีราคาขายอยู่ที่ 8,000บาทต่อเครื่อง ข้อความนี้คือข้อมูล เป็นความจริงที่เกิดขึ้น แต่ข้อมูลนี้จะเป็นสารสนเทศหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ข้อมูลนั้น หากนำข้อมูลไปบอกแก่ผู้ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อโทรศัพท์มือถือมาใช้ ข้อความข้างต้นจะกลายเป็นสารสนเทศสำหรับบุคคลนั้น แต่ถ้านำข้อมูลไปบอกแก่บุคคลที่ไม่ต้องการหาซื้อโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลนี้ก็จะยังคงสภาพเป็นแต่เพียงข้อมูล

2. "ระบบสารสนเทศใดๆประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์" ท่านคิดว่าข้อความนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด
           ตอบ ถูกต้องครับ การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสารสนเทศ ทำให้สารสนเทศมีประโยชน์ และใช้งานได้กว้างขวางมากขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศรวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่จะรวบรวม จัดเก็บ ใช้งาน ส่งต่อ หรือสื่อสารระหว่างกัน ในระบบสารสนเทศนั้นประกอบด้วย ส่วนหลักๆ ได้แก่ บุคลากร ขั้นตอนการทำงาน ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และข้อมูล ปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของประชาชน ทั้งด้านการติดต่อสื่อสาร การเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ การดำเนินธุรกิจ และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

3. ระบบสารสนเทศแบบใดที่พบเห็นบ่อยและใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด เพราะเหตุใดระบบสารสนเทศแบบนี้จึงมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
          ตอบ  คือ MIS (Management Information System)MIS คือ ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (Management Information  System) หรือ MIS คือระบบที่ให้สารสนเทศที่ผู้บริหารต้องการ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะรวมทั้ง สารสนเทศภายในและภายนอก สารสนเทศที่เกี่ยวพันกับองค์กรทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งสิ่งที่คาดว่าจะเป็นในอนาคต นอกจากนี้ระบบเอ็มไอเอสจะต้อง ให้สารสนเทศ ในช่วงเวลาที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการวางแผนการควบคุม และการปฏิบัติการขององค์กรได้อย่างถูกต้อง
แม้ว่าผู้บริหารที่จะได้รับประโยชน์จาก ระบบเอ็มไอเอสสูงสุดคือผู้บริหารระดับกลาง แต่โดยพื้นฐานของระบบเอ็มไอเอสแล้ว จะเป็นระบบที่ สามารถสนับสนุนข้อมูลให้ ผู้บริหารทั้งสามระดับ คือทั้งผู้บริหารระดับต้น ผู้บริหารระดับกลาง และผู้บริหารระดับสูง โดยระบบเอ็มไอเอสจะให้รายงาน ที่สรุปสารสนเทศซึ่งรวบรวมจากฐานข้อมูลทั้งหมดของบริษัท จุดประสงค์ ของรายงานจะเน้นให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นแนวโน้ม และภาพรวม ขององค์กรในปัจจุบัน รวมทั้งามารถควบคุมและตรวจสอบงานของระดับปฏิบัติการด้วย อย่างไรก็ดี ขอบเขตของรายงาน จะขึ้นอยู่กับ ลักษณะของสารสนเทศ และจุดประสงค์การใช้งาน โดยอาจมีรายงานที่ออกทุกคาบระยะเวลา (เช่น งบกำไรขาดทุนหรืองบดุล) รายงานตามความต้องการ หรือรายงานตามสภาวะการณ์หรือเหตุผิดปกติ

4. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถดึงคนมารวมกันได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้บุคคลอยู่อย่างโดดเดียวได้เช่นกัน จงอธิบาย
          ตอบ  เทคโนโลยีสามารถดึงคนมารวมกันได้ เพราะความพัฒนาของเทคโนโลยีสามารถทำให้คนรวมกลุ่มกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ทำธุรกิจร่วมกัน มีความคิดตรงกัน แต่ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีสารสนเทศก็ยังสามารถทำให้คนอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ กล่าวคือ คนสามารถทำงาน หรือทำธุรกิจผ่านทางเทคโนโลยี หรือคุย เจรจาผ่านเทคโนโลยี โดยไม่ต้องพบปะผู้คนก็ได้ หรือไม่จำเป็นต้องออกไปประชุมร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนก็ได้ สามารถประชุมกันโดยอยู่คนเดียวได้ แต่ทุกอย่างย่อมมีทั้งผลดีและผลเสียเช่นกัน

5.อธิบายความแตกต่างระหว่างคำว่าผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์  ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศ  และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
           ตอบ  ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี อาจรวมถึงระบบ ต่างๆในคอมพิวเตอร์ การสร้างโปรแกรมการเขียนโปรแกรมอะไรต่างๆเหล่านี้ ฯ นั่นเอง
           ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศ ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านระบบสารสนเทศ เข้าใจถึงกระบวนการของระบบสารสนเทศเป็นอย่างดี อาจไม่เก่งหรือชำนวญในเรื่องคอมพิวเตอร์ แต่ก็สามารถเข้าใจระบบสารสนเทศได้
            ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้าใจถึงกระบวนการต่างๆของเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถใช้มันได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะไม่เก่งในเรื้องของคอมพิวเตอร์ หรือ  ระบบสารระสนเทศก็ได้
6. อธิบายคำว่า "symergy" และยกตัวอย่างการนำมาใช้ในธุรกิจ
           ตอบ   synergy  แปลว่า  การผนึกกำลังหรือพลัง  หรือสนธิพลัง  ก่อให้เกิดผลมากกว่าบวก  (สมการของพลังผนึกก็คือ 
                      ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่มาจาก คำว่า  syn  แปลว่า  รวม ร่วม  และ  energy  แปลว่า  พลัง 
เช่น  ถ้าเป็นธุรกิจ  ความหมายก็คือการที่ธุรกิจสองธุรกิจรวมกันหรือในเครือมีหลายธุรกิจนั้นเอง  จักต้องก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าการที่แต่ละบริษัทหรือแต่ละธุรกิจแยกกันอยู่เดี่ยวๆ หรือทางการเมือง เช่น  นักการเมือง  2  คน ถ้าแต่ละคนสามารถที่จะหาคะแนนเสียงได้  1  ล้านเสียงด้วยตัวเอง  แต่ถ้า  2  คนร่วมมือกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์  2.5 ล้านเสียง  synergy  ของพวกเค้าก็จะเท่ากับ    5  แสนเสียงมากกว่าที่ทำกันเองได้

7.ยกตัวอย่าง อุปกรณ์ การนำเข้า และอุปกรณ์การนำออก
            ตอบ  อุปกรณ์นำเข้า  เช่น อุปกรณ์แบบกด  (Keyed Device)  คีย์บอร์ด  
                     อุปกรณ์นำออก  เช่น  จอภาพ  



8. อธิบายความแตกต่างระหว่าง   TPS  MIS  DSS  GDSS  EIS  และ  ES
         ตอบ   - TPD  คือ  กระบวนการประมวลผลรายการค้า
                    -  MIS  คือ  ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
                     -DSS  คือ  ระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ
                    -  EIS  คือ  ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริการ
                    -  ES  คือ  ระบบผู้เชี่ยวชาญ

9.ยกตัวอย่าง  functional IS
             ตอบ  เช่น   feature ที่โปรแกรมต้องทำได้เพื่อห้ตรงกับ  requirement  ของลูกค้า  ผู้ใช้ต้องสามารถค้นหาจากฐานข้อมูลทั้งหมดก็ได้หรือ  ค้นหาจากส่วนหนึ่งส่วนใดของฐานข้อมูลก็ได้  ระบบจะต้องมีโปรแกรมที่ช่วยให้อ่านเอกสาร
           
10."new business  หมายถึงอะไร
          ตอบ ลูกค้ารายใหม่
11.  “strategic nove is not always a competitive move”  หมายถึง 
          ตอบ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงการแข่งขัน

12. “competitive advantage is a moving target”  หมายถึง 
          ตอบ เมื่อเปลี่ยนการแข่งขัน เป้าหมายนั้นก็ย่อมเปลี่ยน

13.  เหตุใดระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศจึงทวีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจขององค์กรยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
              ตอบ การมีระบบสนเทศเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจนั้นทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างเรียบร้อย ถูกต้อง และสามารถบริหารทรัพยากรขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

14.อธิบายและยกตัวอย่างการใช้อินเทอร์เน็ตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศขององค์กร
                ตอบ อินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศขององค์กร เช่น การทำธุรกรรมบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงมากเมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมอย่างเดียวกันแบบดั่งเดิม

15. อธิบายความหมายของคำว่าการแปรสภาพของธุรกิจ
                ตอบ  คือ เครื่อข่ายอินเทอร์เน็ตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางด้านการตลาด  และความได้เปรียบทางธุรกิจ

16. อธิบายเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อทั่วโลก  ว่าเพราะเหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ
                ตอบ  ระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อทั่วโลก  คือ  กิจกรรมทางธุรกิจสำหรับกิจการหนึ่งไม่ได้ถูกกำหนดให้เกิดขึ้นเพียงที่ใดที่หนึ่งหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง  ระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพจะสามารถสื่อสารและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายที่มาทั่วโลก  เมื่อธุรกิจนั้นจะสามารถบริหารธุรกิจที่ครอบคลุมกิจกรรมที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก

17. องค์กรดิจิทัลคืออะไร  เกี่ยวข้องอย่างไรกับระบบสารสนเทศ
                ตอบ  องค์กรดิจิทัล  คือ  องค์กรที่มีการใช้ระบบการสื่อสารแบบดิจิทัลในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลภายในและภายนอกองค์กร  ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อระหว่างพนักงาน  การติดต่อกับลูกค้าหรือคู่ค้า

18. ระบบสานสนเทศมีหลายมุมมอง  มุมมองเหล่านี้ได้แก่อะไรบ้าง  แต่ละมุมมองหมายความว่าอย่างไร
                ตอบ  การจำแนกระบบสารสนเทศสามารถจำแนกโดยใช้เกณฑ์ต่างๆ คือ
                        1.  จำแนกตามระดับความซับซ้อนของระบบงาน

2.  จำแนกตามลักษณะงานหรือหน้าที่งาน

3.  จำแนกตามประเภทของธุรกิจ

19.  อธิบายห่วงโซ่เพิ่มมูลค่าของสารสนเทศ
                ตอบ  ห่วงโซ่เพิ่มมูลค่าของสารสนเทศ  คือ  ระบบสารสนเทศเอื้ออำนวยให้กิจการสามารถเพิ่มรายได้หรือลดค่าใช้จ่ายได้  โดยการนำเสนอสารสนเทศที่สนับสนุนให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

20.  ยกตัวอย่างอาชีพด้านสารสนเทศมา  2  อาชีพ  อธิบายภาระงานหรือลักษณะงานของแต่ละอาชีพโดยสังเขป
                ตอบ  อาชีพ บัญชี  การบันทึกรายการค้าและนำเสนอผลของการค้าเหล่านั้นในงานการเงินและรายงานต่างๆ งบการเงิน
                          อาชีพการผลิต  จัดทำแผนงานการผลิตหลัก  การจัดทำแผนรายการความต้องการวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนแผนการผลิต




คำถามท้ายบทบทที่ 2


 
1.โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง และผู้บริหารระดับล่าง ให้อธิบายลักษณะของสารสนเทศที่เป็นที่ต้องการของผู้บริหารระดับต่างๆขององค์กร
                ตอบ โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง  คือ  ต้องการข้อมูลกว้างๆ ของกิจการที่ครอบคลุมช่วงเวลานาน  และส่วนหนึ่งมักเป็นข้อมูลที่ได้จากภายนอกกิจการ  ส่วนผู้บริหารระดับล่างลงมามักเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในลักษณะที่มีรูปแบบกึ่งแน่นอน  กึ่งไม่แน่นอน  และการตัดสินใจที่มีรูปแบบที่แน่นอน  ผู้มีบทบาทตัดสินใจคือ  ผู้บริหารระดับสูง

2.อธิบายความแตกต่างระหว่างการตัดสินใจที่ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน  การตัดสินใจที่มีรูปแบบกึ่งแน่นอน กึ่งไม่แน่นอน  แลการตัดสินใจที่มีรูปแบบที่แน่นอน
                ตอบ การตัดสินใจที่มีรูปแบบที่แน่นอน  ส่วนใหญ่จะเป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและวางแผนระยะยาวขององค์กร
                การตัดสินใจที่มีรูปแบบกึ่งแน่นอน  กึ่งไม่แน่นอน มักเป็นการตัดสินใจเพื่อควบคุมเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นให้เป็นไปตามแผนระยะเวลา  1-3 ปี  ข้างหน้า  ผู้ที่มีบทบาทการตัดสินใจ คือ ผู้บริหารระดับกลาง
                การตัดสินใจที่มีรูปแบบที่แน่นอน  มักเป็นการตัดสินใจเพื่อให้การดำเนินงานประจำวันในองค์กรเป็นอย่างราบรื่น  ผู้มีบทบาทตัดสินใจ  คือ  ผู้บริหารระดับล่าง

3. ลักษณะของสารสนเทศอาจจำแนกโดยอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เช่น ที่มา ขอบเขต  ระดับ  ความละเอียด ช่วงเวลา ระดับความทันสมัย  ระดับความแม่นยำ  และระดับความถี่ในการใช้งาน  ให้อธิบายปัจจัยต่างๆ
ลักษณะสารสนเทศ
ผู้บริหารระดับสูง
ผู้บริหารระดับกลาง
ผู้บริหารระดับล่าง
ที่มาของสารสนเทศที่ใช้
ส่งผลกระทบทั่วทั้งองค์กร
ทั้งภายนอกและภายในองค์กร
ข้อมูลจากภายในองค์กร
ขอบเขต
ส่งผลกระทบทั่วทั้งองค์กร
ส่งผลกระทบแคบลง
ส่งผลกระทบในวงที่แคบที่สุด
ระดับความละเอียด
ไม่ค่อยละเอียด
ลงรายละเอียดพอสมควร
  รายงานการขายแยกตามเขต ประเภทสินค่า
รายงานการขายเปรียบเทียบกับตัวเลขที่ประมาณการไว้
ลงรายละเอียดมาก
 พนักงานขายแต่ละคนมียอดขายเท่าไร
  รายงานการขายเรียงตามเลขที่ใบสั่งขาย
ช่วงเวลา
รายงานประจำปี เปรียบเทียบ 5 ปี เปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน
รายงานประจำเดือน
รายงานประจำไตรมาส
รายงานประจำปี
รายงานประจำวัน
รายงานประจำสัปดาห์
ระดับความทันสมัย
ข้อมูลจะต้องทันสมัยมาก  เพื่อการตัดสินใจที่ทันต่อเหตุการณ์
ไม่ต้องทันสมัยมาก
รายการค้าที่เกิดขึ้นตามจำนวนเงินที่ปรากฎอยู่ในเอกสารเบื้องต้น
ระดับความแม่นยำ
ไม่ต้องแม่นยำมาก แต่รวดเร็ว
สูง เพราะต้องบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้น ตามจำนวนเงินที่ปรากฎอยู่ในเอกสารเบื้องต้น
ความถี่ในการใช้
ไม่บ่อย
บ่อยมาก

4.ระบุลักษณะงานมา 4 ลักษณะของผู้บริหาร
              ตอบ  1.การวางแผน
                2.การควบคุม
                3.การตัดสินใจ
                4.การเป็นผู้นำ

5.โครงสร้างขององค์กรในอนาคตจะต้องเปลี่ยนแปลงไป  จงระบุแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงนี้ 2 ข้อและอธิบาย
            ตอบ    1.การทำให้เป็นอัตโนมัติหรือการออโตเมต เป็นการใช้เทคโนโบยีสารสนเทศช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้แก่การทำงานของบุคลากร
                2.การจัดการขั้นตอนงานให้เหมาะสม  มีการกำหนดมาตรฐาน กฎเกณฑ์ และข้อบังคับในขั้นตอนงานใหม่ๆ

6.ลักษณะสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพคสือความสามารถในการนำเสนอข้อมูลหรือสารสนเทศในลักษณะต่างๆ เช่น ตาราง รูปภาพ หรือแผนภาพ และการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปประเภท OLAP  จงอธิบายและยกตัวอย่างสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ และตัวอย่างการใช้โปรแกรมประเภท OLAP
                ตอบ  Online Analytical Processing (OLAP)  เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ทำให้ผู้ใช้สามารถมองความเชื่อมโยงของข้อมูลได้ในหลายมิติ  สามารถตอบคำถามได้หลาย  เช่น สินค้าประเภทใดขายดีที่สุดหน่วยงานหน่วยใดที่มีผลงานน้อยที่สุด  ในกิจการผลิตสินค้ามีสินค้าตัวหนึ่งกี่รุ่น

7.อธิบายคำว่าการใช้สารสนเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ (strategic information system)
                ตอบ  การใช้สารสนเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ คือ  ระบบสารสนเทศที่สามารถทำให้เกิดความได้เปรียบทางธุรกิจ  เป็นระบบสารสนเทศที่แสวงหาโอกาสทางธุรกิจให้แก่องค์การ

8.อธิบายและยกตัวอย่างการใช้สารสนเทศเพื่อลดต้นทุน
                ตอบ  การใช้สารสนเทศเพื่อลดต้นทุน  คือ  การพยายามลดต้นทุน  เพื่อจะได้สามารถเสนอขายสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพเหมือนกันในราคาที่ต่ำกว่า

9.อธิบายและยกตัวอย่างการใช้สารสนเทศเพื่อสร้างกำแพงเพื่อกีดกันคู่แข่งขันไม่ให้เข้าสู่ธุรกิจเดียวกัน
                ตอบ  การใช้สารสนเทศเพื่อการสร้างกำแพงเพื่อกีดกันคู่แข่งขันไม่ให้เข้าสู่ธุรกิจเดียวกัน  คือ  กิจการมีวิธีการที่จะกีดกันคู่แข่งขันไม่ให้สามารถลอกเลียนแบบหรือเข้าสู่ธุรกิจเดียวกันได้โดยง่ายหลายวิธี  เช่น การขอความคุ้มครองทางกฎหมาย

10.อธิบายและยกตัวอย่างการสร้างค่าใช้จ่ายที่สูงในการเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการจากผู้ค้าเดียวกัน
                ตอบ  การสร้างค่าใช้จ่ายที่สูงในการเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการจากผู้ค้ารายอื่น  คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อลูกค้าหยุดซื้อสินค้าหรือบริการจากธุรกิจหนึ่งเพื่อไปซื้อสินค้าหรือบริการเดียวกันจากผู้ค่ารายอื่น

11.อธิบายและยกตัวอย่างการสร้างสินค้าหรือบริการใหม่
                ตอบ  การสร้างสินค้าหรือบริการใหม่  คือ  การสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีผู้ใดเสนอขายมาก่อนทำให้เกิดความได้เปรียบ

12.อธิบายและยกตัวอย่างการสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าหรือบริการ
                ตอบ  การสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าหรือบริการ  คือ  กิจการอาจทำให้เกิดความได้เปรียบทางธุรกิจโดยการโน้วน้าวให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนได้รับสินค้าหรือบริการที่ดีกว่า

13.อธิบายและยกตัวอย่างการปรับปรุงสินค้าหรือบริการเดินให้ดียิ่งขึ้น
                ตอบ  การปรับปรุงสินค้าหรือบริการเดินให้ดียิ่งขึ้น  คือ กิจการอาจสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจโดยการปรับปรุงสินค้าหรือบริการ  หรือเพิ่มค่าให้แก่สินค้าหรือบริการของตน

14.อธิบายและยกตัวอย่างการจับมือร่วมค้ากับคู่ค้าหรือคู่แข่งขัน
                ตอบ  การจับมือร่วมกับคู่แข่งขัน  คือ  กิจการหลายแห่งจับมือร่วมให้บริการแก่ลูกค้าในราคาที่ต่ำลง  และคุณภาพของสินค้า  หรือบริการมักจะดีกว่าการซื้อสินค้าหรือบริการแยกกัน

15.อธิบายและยกตัวอย่างการดึงหรือยึดผู้ขายหรือผู้ซื้อเดิมไว้ให้ได้
                ตอบ  การดึงหรือยึดผู้ขายหรือผู้ซื้อเดิมไว้ให้ได้  คือ  กิจการจะมีความได้เปรียบทางธุรกิจหากกิจการนั้นมีอำนาจในการต่อรองสูง  ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการต่อรองกับผู้ขายหรือผู้ซื้อ

16.อธิบายบทบาทของผู้บริหารตามแนวคิดของมินต์สเบิร์ก  บทบาทของผู้บริหารใดที่สามารถใช้ระบบสารสนเทศช่วยในการตัดสินใจ
                ตอบ  บทสรุปของมินต์สเบิร์กก็คือ  ผู้บริหารไม่สามารถใช้ระบบสารสนเทศช่วยในการตัดสินใจในทุกบทบาทของผู้บริหารได้  บทบาทชองผู้บริหารที่ช่วยในการตัดสินใจ
-          คุณภาพของข้อมูล
-          ลักษณะเฉพาะตัวของผู้บริหาร
-          ความล่าช้าของชั้นตอนงานต่างๆ และการเมืองภายในองค์การ

17.อธิบายระดับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อองค์กรนำระบบสารสนเทศแบบใหม่มาใช้
                ตอบ  ระบบสารสนเทศใหม่กับการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร  มี  4  ระดับ  คือ
                                1.การทำให้เป็นอัตโนมัติหรือการออโตเมต
                                2.การจัดการขั้นตอนงานให้เหมาะสม
                                3.การเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ
                                4.การแปรสภาพของธุรกิจ

18.การออโตเมตคืออะไร  อธิบายและยกตัวอย่าง
                ตอบ  ออโตเมต  คือ  การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล  ให้แก่การทำงานของบุคลากร  เช่น  การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการคิดคำนวณค่าแรงประจำเดือน

19.Business  Process  คืออะไร  เราสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มประสิทธิผลของกระบวนการทางธุรกิจอย่างไรบ้าง  ยกตัวอย่าง
                ตอบ  Business  process  คือ  กระบวนการทางธุรกิจ  คือ  หัวใจของระบบสารสนเทศการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น  กระบวนการทางธุรกิจหนึ่งประกอบด้วยกิจกรรมมากมาย  กระบวนการดสามารถใช้  IS/IT  แทนหรือช่วยได้  ทรัพยากรที่ถูกใช้น้อยลง จะส่งผลให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่องค์กรหรือลูกค้าที่ปลายทางได้

20.การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบสารสนเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจคืออะไร  ยกตัวอย่าง
                ตอบ  การใช้สารสนเทศเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ คือ  ระบบสารสนเทศแบบนโยบายอาจถูกพัฒนาขึ้นจากกิจการใหม่ที่ยังไม่มีระบบสารสนเทศที่เป็นรูปเป็นร่าง  หรืออาจถูกพัฒนามาจากระบบสารสนเทศเดิมขององค์กร

คำถามท้ายบทบทที่ 3

1.ส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์  (computer  hardware)  มีอะไรบ้าง  อธิบายแต่ละส่วนโดยสังเขป
                ตอบ  ส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มี
                                อุปกรณ์นำเข้า  คือ  การแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจได้ที่เรียกว่า  รูปแบบเลขฐานสอง
                                อุปกรณ์ประมวลผล  คือ หน่วยประมวลผลสามารถทำงานได้เร็วกว่าอุปกรณ์ส่วนอื่นๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ความเร็วในการทำงานของหน่วยประมวลผลมักถูกวัดเป็น  nanoseconds (1/1000 ล้านของวินาที) 
                                อุปกรณ์นำข้อมูลออก  คือ  จอคอมพิวเตอร์  และเครื่องพิมพ์  อุปกรณ์นำข้อมูลออกอื่นๆ  อาจได้แก่  สัญญาณเสียง  หรือภาพวีดีโอที่มาจากแผ่นวงจรภาพ  และถูกแสดงออกบนจอคอมพิวเตอร์
                อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สอง  คือ  หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งจะมีหน่วยเก็บข้อมูลชั่วคราวเรียกว่า  RAM  ซึ่งเป็นหน่วยเก็บข้อมูลที่พลวัต  dynamic

2. RAM  คืออะไร  แตกต่างจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สองและหน่วยประมวลผลอย่างไร
                ตอบ  RAM  คือ  หน่วยประมวลผลของแครื่องคอมพิวเตอร์  เครื่องหนึ่งจะมีหน่วยเก็บข้อมูลชั่วคราว

3.ระบบปฏิบัติการแบบเฉพาะของผู้ประกอบการ  (proprietary  OS)  แตกต่างจากระบบฏิบัติการที่ไม่ขึ้นกับอุปกรณ์คอมพิเตอร์  (hardware-independent OS)  อย่างไร
                ตอบ  proprietary  OS  คือ  ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์มักพัฒนาระบบปฏิบัติการเพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นโดยเฉพาะ
                       Hardware-independent  OS  คือ  ระบบปฏิบัติการองค์ประกอบคอมพิวเตอร์

4.บัส  (bus)  คืออะไร  มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างไร
                ตอบ  บัส  (bus)  คือสาวอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารภายในเครื่องคอมพิวเตอร์

5.ในการประเมินประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการผู้ใช้ควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง
                ตอบ  ในการประเมินประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ  ควรพิจารณาจากปัจจัย คือ clock  rate, data word size  และ  throughput.

6.รูปแบบเลขฐานสอง  (binary form)  หมายความว่าอะไร  เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลอย่างไร  ให้ยกตัวอย่างอุปกรณ์นำข้อมูลเข้ามา ชนิด
                ตอบ  binary form คือ  ทุกบิตอยู่ในรูปของ 0  ซึ่งหมายความว่าปิด  (off)  และ  1  ซึ่งหมายความว่า  เปิด  (on)  แป้นพิมพ์  (keyboard)  คือ  อุปกรณ์นำข้อมูลเข้าที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

7. ให้ยกตัวอย่างอุปกรณ์นำข้อมูลออกที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมา  3  ชนิด 
                ตอบ  อุปกรณ์นำข้อมูลออก  เช่น  จอคอมพิวเตอร์  (monitor)  เครื่องพิมพ์  (printer)  สัญญาณเสียง  (audio signal)

8.DPI  และ PPM  ย่อมาจากอะไร  หมายถึงอะไร
                ตอบ  DPI  (Dot Pre Inch)  คือ  จำนวนจุดในพื้นที่  1  ตารางนิ้ว  หรือหน่วยวัดความละเอียดในการแสดงผลของภาพ
                PPM  (Page  Per  Minote)  คือ  การวัดเป็นจำนวนหน้าที่พิมพ์  ได้ใน  1  นาที และความละเอียดซึ่งวัดเป็นจำนวนจดพื้นที่

9.ในการตัดสินใจว่ากิจการควรใช้เครื่องพิมพ์ชนิดใด  กิจการควรใช้ปัจจัยอะไรบ้างในการเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสม
                ตอบ  ในการเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสม  ควรพิจารณาจากปัจจัย ต้องพิจารณาความเร็วในการพิมพ์  ซึ่งมักจะวัดเป็นจำนวนหน้าที่พิมพ์ได้ใน  1  นาที

10.ให้ยกตัวอย่างอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สอง  เพราะเหตุใดระบบคอมพิวเตอร์จึงต้องมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สอง
                ตอบ  ปัจจัยที่ใช้ในการเลือกอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สอง  ได้แก่
                                1.ความจุต่อพื้นที่
                                2.ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล
                                3.ลักษณะการดึงข้อมูลมาใช้
                                4.ค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สอง

11.หน่วยขับชุดสำเนา  (mirror  drive)  และ  RAID  คืออะไร  แตกต่างกันอย่างไร
                ตอบ  mirror  drive  และ  RAID  คือ  การเก็บข้อมูลเดียวกันอีกชุดหนึ่งไว้ใน  Drive  อีก  Drive หนึ่ง  เรียกว่า  mirror drive
                Redundant  arrays  of  independent  drive  = RAID  คือ  ชุดหน่วย

12.อะไรคือข้อดีและข้อเสียของการใช้เทปแม่เหล็ก  (magnetic  tape)  เป็นสื่อในการเก็บข้อมูล
                ตอบ  magnetic  tepe  คือ  เทปแม่เหล็ก
                ข้อดี  เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สองที่ยังคงเป็นที่นิยมใช้  และสามารถเก็บข้อมูลโดยจำนวนมากด้วยราคาที่ต่ำ  จึงเป็นที่นิยมใช้ในการเก็บข้อมูลสำรอง
                ข้อเสีย  การที่ผู้ใช้ต้องเก็บและดึงข้อมูลออกมาเรียงตามลำดับนั้น  และอายุการใช้งานอยู่ได้ประมาณ  5  ปี

13.DC และ  DVD  แตกต่างกันอย่างไร
                ตอบ  CD คือ ใช้สำหรับเก็บข้อมูลได้  แต่เสียงไม่ได้
                         DVD  คือ  สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า  ที่ถูกพัฒนา เพื่อแสดงภาพเคลื่อนไหว

14.อธิบายคำว่า  capacity, access speed  และ  access  node  ของอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สอง
                ตอบ  capacity  access  spead และ access mode  อุปกรณ์เก็บข้อมูลผลิต
                         Capacity  คือ  ความจุต่อพื้นที่
                         Access  speed  คือ  ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล
                         Access  mode  คือ  ลักษณะการดึงข้อมูลมาใช้

15.ปัจจัยในการเลือกอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สองให้เหมาะสมมีอะไรบ้าง
                ตอบ  ปัจจัยในการเลือกอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองได้แก่
                                1.ความจุต่อพื้นที่  (capacity)
                                2.ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล  (Caess  speed)
                                3.ลักษณะการดึงข้อมูลมาใช้  (access  node)

16.ปัจจัยในการเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานมีอะไรบ้าง
                ตอบ  ปัจจัยในการเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานคือ  clock rate  คือ  ความสามารถในการประมวลผล  ที่วัดเป็นรอบเครื่องจักร  date  word size  คือ  ปริมาณข้อมูลที่หน่วยประมวลผลสามารถนำมาใช้  จากหน่วยเก็บข้อมูลภายใน ใน 1  รอบเครื่องจักร  throughput  คือ  จำนวนบิต/วินาที  ที่อุปกรณ์  บัน  สามารถรับได้

17. อธิบายความแตกต่างระหว่าง  “proprietary software” กับ “open source  software”
                ตอบ proprietary software  คือ  ซอฟแวร์กรรมสิทธิ์  คือ ซอฟแวร์ที่สิทธิ์ในการใช้งานและทำซ้ำ  ถูกจำกัดหรือ สงวนสิทธิ์ไว้โดยเจ้าของซิฟแวร์ หรือ  ผู้จัดทำ
                Open  source  softwave  คือ  ซอฟแวร์ลิขสิทธิ์ที่มีไลเซนส์แบบโอเพนเซอวิส

18.ระบบปฏิบัติการที่เป็นที่ต้องการควรจะเป็นระบบที่มั่นคง  (stable)  และอเนกประสงค์  (versatile) อธิบายคำว่า  stable  และ  versatile
                ตอบ stable  คือ  ระบบที่มั่นคง  มีคุณภาพ ยั่งยืน  เป็นระบบถี่
                Versatile  คือ  มีความสามารถรอบตัว  อเนกประสงค์  มีประโยชน์หลายอย่าง  การมีประโยชน์หลายอย่างในระบบปฏิบัติการ

19.ระบบปฏิบัติการที่เป็นที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันมักมีภาษาโปรแกรมเชิงอ๊อบเจกต์  (object  oriented programming – OOP)  รวมอยู่ด้วย  อธิบายว่าระบบปฏิบัติการที่มี  OOP  สามารถทำอะไรได้บ้าง  ดีกว่าระบบปฏิบัติการที่เขียนขึ้นโดยภาษาทางคอมพิวเตอร์อื่นอย่างไร
                ตอบ  Object  ariented, programming-OOP  คือ  ภาษาโปรแกรมเชิงอ๊อบเจกต์ ผู้ใช้สามารถจัดหมวดหมู่  และค้นหา  object  ตามคุณสมบัติ  และเนื้อหาที่ต้องการได้ 
                ตัวเลข,    มีความแม่นยำ  และค่าสเกล,                ตัวอักษรหรือข้อความ 
ฟังก์ชั่นสำหรับตัวอักษร,      รูปภาพ,                                  ฟังก์ชั่นสำหรับรูปภาพ
                เสียง,       ฟังก์ชันสำหรับเสียงและภาพเคลื่อนไหว,

20.ให้ยกตัวอย่างโปรแกรมการใช้งานที่เป็นที่นิยมใช้ในธุรกิจมา  5  ประเภท
                ตอบ  1.โปรแกรมประเภทบริหารฐานข้อมูลรวม
                         2.โปรแกรมประเภทนาคางทำการเพื่อใช้ในการคิดคำนวณและวิเคราะห์ข้อมูล
                         3.โปรแกรมประเภทประมวลผลคำ
                         4. โปรแกรมประเภทนำเสนอและกราฟฟิก
                         5.โปรแกรมเพื่อการสื่อสารโดยใช้เสียงและอีเมล

21.อธิบายคำว่าเครือข่าย  (network)  และวัตถุประสงค์ของการมี  network
                ตอบ  network  คือ  กลุ่มของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารชนิดต่างๆที่นำมาเชื่อมกัน  เพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่าย  สามารถติดต่อสื่อสาร  แลกเปลี่ยนข้อมูล  และอุปกรณ์ต่างๆ รวมกันในเครือข่ายได้

22.เทคโนโลยี 5  อันดับแรกที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ 
                ตอบ  1.ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี
        2.ระบบสารสนเทศด้านการเงิน
                        3.ระบบสารสนเทศด้านการตลาด
                        4.ระบบสารสนเทศด้านการผลิตและดำเนินงาน
                         5.ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล

23.ระบุเทคโนโลยี  5  อันดับแรกที่กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
                 ตอบ  1.การจัดบริการเวบเซอร์วิส
            2.คอมพิวเตอร์อัจฉริยะ
                            3.กรดคอมพิวเตอร์
                            4.โครงข่ายไร้สาย
                            5.การจ่ายเงินผ่านอินเตอร์เน็ต 

24.อธิบายคำว่า  virtualization และ  virtualization มีบทบาทอย่างไรในการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กร
                ตอบ  virtualization คือ  เทคนิคเพื่อการร่วมใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ทุกอย่าง  ได้แก่  ฮาร์ดแวร์ วอฟต์แวร์  เครือข่ายคอมพิวเตอร์  ฯ

25.อธิบายและยกตัวอย่างซอฟต์แวร์เพื่อการทำงานร่วมกัน
                ตอบ  collaborative  softwave  คือ  ซอฟแวร์ที่มีลักษณะเพื่อการทำงานร่วมกัน
                                1.กลุ่มที่ใช้ประโยชน์ในการสื่อสาร
                                2.กลุ่มที่ใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้

26.อธิบายและยกตัวอย่างการ  outsource  และกิจการนิยม  outsource  กิจกรรมใดมากที่สุดกิจการมีวัตถุประสงค์หลักอะไรในการเลือกที่จะ  outsource
                ตอบ  out source  คือ  การแบ่งงานกันทำออกเป็นส่วนๆ  เช่น  งานผลิตชิ้นส่วน  งานประกอบ  พ่นสี  งานบัญชี  งานด้านกฎหมาย  งานด้านบำรุงรักษา  ทำความสะอาด  งานด้านขนส่ง  งานด้านที่ปรึกษา  งานด้านบริการทางด้านเทคนิค

27.อธิบาย  SOA  หรือสถาปัตยกรรมเชิงบริการและ  SOA  มีบทบาทอย่างไรในการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กร
                ตอบ  SOA  คือ  สถาปัตยกรรมที่ไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะหาซื้อ  Software  ที่ไหนเพราะไม่มีขายแต่เป็นการปรับมุมมองของการพัมนา  software  ให้ตอบโจทย์เรื่องการบริการ  และทันต่อความต้องการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็ว
                SOA  มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กร  มีประโยชน์อย่างมากทั้งบริษัทเอกชนและองค์กรในภาครัฐ  SOA  จะช่วยทำให้เกิดการรวบรวมข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจได้ง่าย  ทำให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆร่วมกัน  โดยไม่ขึ้นกับแผลตฟอร์มของบริษัทนั้นๆ

28.อธิบาย  SaaS  เหตุใดผู้พัฒนาระบบสารสนเทศจึงต้องรู้จัก  SaaS
                ตอบ  SaaS  หรือ  Saftware as  a service  คือการรูปแบบการขายซอฟต์แวค์  โดยให้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต  คล้ายกับการเช่าใช้  เพียงแค่ผู้ซื้อจ่ายค่าซอฟต์แวร์ตามลักษณะการใช้งานที่ต้องการ

29.Middleware  คืออะไร  เหมือนหรือต่างจาก EAI  อย่างไร
                ตอบ  Middleware  คือ  โปรแกรมที่ทำหน้าที่สนีบสนุนให้แอบพลิเคชันต่างๆ สามารถทำงาร่วมกันหรือแลกเปบี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
                EAI  (Enterprise Application  Inergration)  เป็น  software  ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง  หรือ Middleware  เพื่อเชื่อมการทำงานต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น